จริง ๆ ยังมีอีกหลายคำถามเลยครับ พอไปบอกทุกคนว่าไปดูสไปเดอร์แมน มา
- มันคือภาค 4 หรือเปล่า
- หรือว่าเป็นภาค ต้นกำเนิด ( ว่าไปนั่น )
- พระเอกหล่อมั้ยอ่า ^_^ ( หล่อค๊าบ )
สรุปแล้วภาคนี้ คือการเอา spiderman มาตีความใหม่ครับ
เนื้อหาหลักก็จะเหมือน Spiderman ตอนปี 2002 ( สิบปีแล้วเหรอเนี่ย )
คือเริ่มตั้งแต่พระเอกยังไม่มีพลังพิเศษ อาศัยอยู่กับคุณลุง คุณป้า
เป็นเด็ก ม.ปลาย หงอ ๆ หน่อย
แต่เวอร์ชั่น 2012 นี้ จะเล่าตั้งแต่ตอนที่ยังมีพ่อแม่อยู่เลย
ถ้าถามว่า สนุกมั้ย ต้องบอกว่า
ถ้าหวังจะให้เป็น - Super Hero แบบ Action ลั้ลลา
แบบหนังครอบครัว คงไม่ใช่ บรรยากาศ ออกจะดราม่าทีเดียว
พระเอกมีความเป็นคนธรรมดาสูงมาก
คือไม่ใช่แบบได้พลังพิเศษมา แล้วกลายเป็นคนดีมีความรับผิดชอบ
จนถึงตอนที่ลุงถูกโจรฆ่าแล้ว พระเอกเวอร์ชั่นนี้ก็ยังไม่ได้รู้สึกผิด
แต่กลับออกแนวแค้น แถมยังเกรียนนิด ๆ ดูแล้วเป็นมนุษย์จริง ๆ
แต่ไม่ใช่ Super Hero ที่เด็ก ๆ ไฝ่ฝัน
ที่ถามว่าพระเอกหล่อมั้ย ต้องบอกว่าหล่อครับ
( ติดใจมาตั้งแต่ Social Network ) แต่ไม่บึกเลย น่าแปลกอยู่เหมือนกัน
โดยรวมแล้ว Spiderman ภาคนี้ สนุกครับ แต่สนุกแบบหนังดราม่า
ที่มีฉาก Action แต่ถ้าจะพาลูก หลาน ไปดู Hero อืมม ไม่น่าจะผ่านครับ
nimman na
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555
พบพาเพื่อลาจาก
การที่คนเราได้มาพบกัน รู้จักกัน
ไม่ว่าจะร่วมงาน เป็นเพื่อน หรือคนรัก
แค่นี้ก็เป็นเรื่องยากแล้ว แต่กลับยากยิ่งกว่า
หากจะรักษาความสัมพันธ์ดี ๆ นั้น ให้คงอยู่
...
ทุกครั้งที่ได้เจอ รู้จัก ใกล้ชิด กับคนดี ๆ
ก็มักจะหลงลืมไปทุกที ว่าต้องมี วันลาจาก ไม่วันไดก็วันหนึ่ง
พอวันนั้นไกล้เข้ามา ก็อดใจหายไม่ได้
แต่มันก็คงต้องเป็นไป
พอวันนั้นไกล้เข้ามา ก็อดใจหายไม่ได้
แต่มันก็คงต้องเป็นไป
...
อาจเป็นเพราะเรารักกันน้อยลงไป
หรือเรารักคนอื่นมากกว่า
หรืออาจเป็นเหตุผลต่าง ๆ ของชีวิต
ที่บังคับให้เราต้องเลือก
...
ขอบคุณทุกวันเวลาดี ๆ ที่เคยมีให้กันนะ
ถ้าโลกมันกลมจริง ๆ
สักวันมันคงหมุนกลับมา ให้เราได้พบเจอกันอีก
.
.
.
ลาก่อน
วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555
รีวิว Samsumg Galaxy S3
จริง ๆ ได้เครื่อง Samsung Galaxy S3 มา 2 - 3 แล้ว แต่ต้องขอเล่นให้หนำใจก่อน
แล้วค่อยมาเล่าสู่กันฟัง
จับครั้งแรกต้องบอกว่าประทับใจกับตัวเครื่องพอสมควร ออกแบบมาได้เรียบหรู โค้งมน
แต่ที่เป็นปลื้มจริง ๆ ก็ตอนเปิดเครื่อง หน้าจอสวยมาก ใหญ่ และชัดเต็มตา ดูมีมิติ
แถมยังมีลูกเล่นตอนล็อกหน้าจอ เอานิ้วไปแตะก็จะเป็นเหมือนคลื่นน้ำ พร้อมเสียง น่ารักดี
ส่วนในเรื่องการใช้งานทั่วไป S3 มาพร้อมกับ Android 4.0 ice cream sandwich
ซึ่งเร็ว ลื่น ใช้งานง่าย และสวยงาม ใครที่เคยใช้ Android มาก่อนได้มาเล่น S3
รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน การโทรเข้า โทรออก ก็มีอะไรเก๋ ๆ มาให้เล่นอีกแล้ว
เพราะถ้าเราอยู่ในหน้าข้อความใครอยู่ แค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู เจ้า S3 ก็จะโทรออกให้เอง
ส่วนเรื่องกล้อง S3 ก็ไม่ยอมแพ้ใครใส่กล้องหน้ามาถึง 1.9 ล้านพิกเซล
เรียกว่าสาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปตัวเองเองน่าจะปลื้มไม่น้อย
ส่วนกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล เมื่อมาบวกกับหน้าจอใหญ่ ๆ ชัดแจ่มขนาดนี้
ต้องบอกถูกใจคนชอบถ่ายรูปแบบผมมาก ( 2 วันก็เป็น 100 รูปละ ^^ )
ลองไปดูตัวอย่างกันเองละกัน
แถมยังมีระบบ Face Detection จดจำใบหน้าคนที่เรา ติด Tag ไว้ในรายชื่อได้ด้วย
ส่วนการถ่าย VDO ก็Full HD 1080 p และสามารถถ่ายถาพนิ่งขณะถ่าย VDO ได้อีกด้วย !!
ส่วนการเล่น Multimedia อื่น ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่น Youtube เสียงดี ทั้งจากตัวเครื่องและหูฟัง
ส่วนหน้าจอนี่ประทับใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว ใหญ่ ชัด แจ่มมาก
แถมด้วยลูกเล่นพิเศษเวลาดู VDO ที่อยู่ในเครื่องสามารถ ทำอย่างอื่นไปพร้อมกันได้ด้วย
ไม่ว่าจะดูรูป เล่นเวป เช็คเมล์ โดยที่ VDO ก็ยังเล่นต่อไปตามปกติ o_O !!
สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือเล่นเกมส์
แล้วเจอปัญหาจอดับไปเพราะตั้งเวลาพักหน้าจอไว้
เจ้า S3 มี Smart stay คอยจับภาพหน้าเราอยู่ ถ้าเรายังมองจออยู่ ยังไงมันก็ไม่ปิดหน้าจอครับ
นอกจากนั้น S3 ยังมี S voice ระบบสั่งงานด้วยเสียง ( เหมือน siri ของ iphone4s )
จริง ๆ แล้ว Samsung Galaxy ยังมีลูกเล่นอีกหลายอย่าง เช่น NFC ,
Android Beam ( เอาเครื่องแตะกันแล้วส่งข้อมูล ) , S Memo
โดยรวมแล้วถือว่า เจ๋งมากครับสำหรับ S3 เหมือนว่า Samsung ใส่ใจรายละเอียด
และเอาใจใส่ประสบการณ์ผู้ใช้งานมากทีเดียว ต่างจากแต่ก่อนที่เน้นสเปคแรงไว้ก่อน
หลายคนอาจสงสัยว่ามันเจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องบอกว่าถ้าใครที่ใช้ Android อยู่แล้ว
คงจะชอบกับ S3 แต่ผมก็ไม่ได้ชอบไปซะทุกอย่างนะครับ อย่างจอที่ใหญ่ 4.8 นิ้วเนี่ย
มันดีก็จริง แต่ก็ใช้มือเดียวลำบากเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูป
หรือจะพิมพ์อะไรเนี่ย ใช้มือเดียว ก็เสียวเครื่องจะตกไม่น้อย
และการที่เครื่องมีลูกเล่นเยอะ ปรับแต่ง แก้ไข อะไรได้มากมาย
บางทีมันก็ " เยอะ " เกินไปเหมือนกัน ยิ่งถ้าคนไม่เคยใช้มาก่อน อาจจะ งง ๆ อยู่บ้าง
อีกอย่างคือ Application ของ Android ( ผมว่า ) มันยังสู้ iphone ไม่ได้ครับ
อย่าง Facebook เนี่ยเล่นใน iphone ดีกว่าเห็น ๆ หลายเกมส์ก็ยังไม่มี
ยังดีที่ตอนนี้มี Instagram กับ Flipboard ให้เล่น ^_^
ยังไงแล้วสุดท้ายก็ต้องเลือกตามสไตล์ และ กำลังซื้อของแต่ละคนนะครับ
~ บทความนี้ผมเขียนใน www.appsolut.in.th ด้วยนะครับ
วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ทำบุญตักบาตร วันวิสาขบูชาเจ้า
วันนี้วันดีครับตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องไปทำบุญให้ได้ เมื่อคืนก็เลยนอนตั้งแต่หัวค่ำ :P
( เผลอหลับไปตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง สะดุ้งตื่นมา ตี 5 กว่า ^_^ )
ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปตักบาตรที่เชิงดอยสุเทพ
แต่พอไปจริง ๆ รถติดมาก ไปถึงแค่หน้าเทคโนก็ต้องกลับ
เพราะคนที่เดินขึ้นดอยกันเมื่อคืน ทะยอยกันลงมาเยอะมาก
เลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปตักบาตรหน้าตลาดต้นพยอมแทน
ซื้อกับข้าวเสร็จแล้ว ก็เลือกดอกไม้
เอิ่มม... เค้าใช้ดอกอะไรไหว้พระกันอ่ะ
สรุปแล้วได้ดอกแก้วมาครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
เพราะวันนี้คนเยอะมากแย่งกันซื้อ แย่งกันทำบุญ
ใจนึงก็ดีใจที่คนสนใจทำบุญกันเยอะ
แต่พอเห็นแย่งกันไปซะทุกอย่างก็แอบเซ็ง
คนที่มาทำบุญเนี่ย น่าจะเป็นคนที่ใจกว้าง จิตใจสงบ
แต่คงเป็นเพราะหลายคนติดนิสัยเร่งรีบ จากชีวิตในเมือง
~ วันหยุดราชการ จะรีบไปไหนกัน ฮึ้ยย
( บร๊ะ แอบใจร้อนซะเอง ^^ )
วันหยุดยาวอย่างนี้ไปไหนก็คนเยอะ ใจเย็นกันหน่อยก็แล้วกันครับ
อย่างน้อยก็วันนี้ เพราะเป็นวันดี ครบรอบ 2600 ปีพุทธชยันตี
ก็คือวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ชนะกิเลสทั้งปวงได้
ใครไปทำบุญ ที่ไหนก็ขอ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ไป คืนนี้ไปเวียนเทียนก็ยังทันนะครับ
สุขสันต์วันวิสาขบูชาครับ
วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ดินเนอร์ใต้แสงเทียน ที่สลัดคอนเซป
เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปออกเดท หรือเกิดอารมณ์โรแมนติกอะไรหรอกครับ
แต่หลังจากที่พยายามออกกำลังกายอย่างหนัก ( ซิทอัพไป 5 ที ^^ )
ก็เริ่มหิว แต่พอก้มดูพุงตัวเอง ก็คิดว่ายังไงมื้อนี้ก็ต้องกินผักเยอะ ๆ
กว่าจะคิดได้ก็เกือบสามทุ่มละ ฝนก็ตก ผักที่ใกล้ที่สุด ก็ต้อง salad concept นี่ละครับ
ว่าแล้วก็เดินทาง ( ไม่ถึง 500 เมตร ) แต่ปรากฏว่า นิมมานไฟดับทั้งเส้นเลยครับ
วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555
ผู้ชายเปื้อนฝุ่น กอดไม่อุ่นเหมือนคนมีตัง
แต่การที่เราต้องสัมผัสอากาศร้อนทั้งยามหลับและยามตื่นเนี่ย
มันเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะคนมีฐานะ(ยากจน)อย่างเราเท่านั้น
คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เข้านอนไปพร้อมกับอากาศที่ร้อนอย่างผิดปกติในช่วงนี้
ผ้าห่มกลายเป็นส่วนเกินบนเตียงแคบๆ เตียงเดิม
แต่คนอีกส่วนนึง ไม่ว่าจะฤดูไหน ก็จะเข้านอนพร้อมกับแอร์เย็นฉ่ำเสมอ เตียงนุ่มๆ ผ้าห่มหนาๆ
แค่คิดถึงก็รู้สึกได้ถึงความสุข ความอบอุ่น ที่จะคงอยู่ทุกฤดูกาล
เมื่อตอนที่ยังมองโลกสดใสกว่านี้ ผมเคยคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่
แต่เมื่อนานวันเข้า ก็ได้รู้ว่า สิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่จริงๆ แล้ว
คงหนีไม่พ้นเงิน
ก่อนหน้านี้เคยนั่งหัวเราะกับคำคมเก๋ ๆใน facebook อย่างเช่น
"ผู้หญิงชอบคนดี รักคนเลว แต่งงานกับคนรวย"
"ไม่หล่อพอทน แต่จนห้ามจีบ"
ทั้งที่ไม่อยากยอมรับ แต่ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่..
ทั้งที่ไม่อยากยอมรับ แต่ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่..
~ พูดเล่น ๆ แต่คิดจริง ๆ
ใครจะเลือกนั่งรถโดยสาร หรือมอเตอร์ไซด์
ถ้ามีรถยนต์ดี ๆ ให้นั่ง
ใครจะเลือกกินข้าวริมถนนข้างทาง
ถ้าเลือกกินในห้างได้
และคงไม่มีใครเลือกนอนเบียดกัน ในวันที่อากาศร้อนแสนสาหัส
ผมเคยรู้สึกปกติมาก ที่กินอาหารข้างทาง
หรือนอนท่ามกลางอากาศร้อนแบบตามมี ตามเกิด
แต่เมื่อมีใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิต
ผมกลับทนสภาพเดิมไม่ได้ ความต้องการกินดี อยู่ดี เกิดขึ้นในใจ
ไม่ใช่ว่ากระแดะ หรืออยากดูดีในสายตาเธอ
แต่แค่อยากให้เธอมีความสุขในทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน
แต่มันจะเป็นไปได้นานแค่ไหนกัน ถ้ามีเงินไม่มากพอ ...
ทางออกที่คิดได้มีอยู่สองทาง
- ก้มหน้า ก้มตาทำงาน สร้างเนื้อ สร้างตัว
เข้าท่า แต่ใช้เวลา นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ใครจะอยู่รอ
- ปล่อยเธอไปเจอคนที่ดีกว่า พร้อมกว่า
ในเมื่อมีคนที่รวยกว่า และพร้อมจะดูแล แล้วจะรั้งเธอไว้เพื่ออะไร
การได้เฝ้ามองคนที่เรารักอยู่ไกล ๆ
และรู้ว่าเธอ กินอิ่ม นอนอุ่น มีชีวิตที่สุขสบาย
คงดีกว่าเก็บเธอไว้ข้างกาย แล้วต้องทนมองเห็นเธอลำบากไปด้วยกัน
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากให้เราเป็นแค่คนที่เดินสวนกัน
จะได้ไม่ต้องมานอนร้องไห้ ร้อน ๆ คนเดียวอย่างนี้
ปล. แอร์เสีย ร้อน พาล ^_^
วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555
แม่ไปโรงเรียน
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ~*
สุขสันต์วันหยุดยาวอย่างแท้จริงของคนไทย
ผมก็คือคนนึง ที่ต้องทำงานห่างจากครอบครัว
ที่จริงเชียงใหม่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรนัก ถ้าเทียบกับกรุงเทพ
แต่การต้องใช้ชีวิตลำพัง ก็ทำให้เกิดอาการอ้างว้าง
ได้อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน
เมื่อได้โอกาสหยุดยาวหลายวัน ก็ไม่รอช้า
ที่จะรีบกลับไปกอด ไปเล่นกับแม่
และทุกครั้งก็ได้กำลังใจดี ๆ กลับมาเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
นอกจากแม่จะให้ศีล ให้พร ตามปกติแล้ว
แม่ยังเล่าเรื่องราวน่ารัก ๆ ในอดีต ให้ฟังเยอะแยะ
แม่เล่าถึงตอนที่แม่ไปโรงเรียน ม.ต้น
แม่อยู่ที่ บ้าน บัวน้อย อ.กันทราลมย์ จ.ศรีสะเกษ
แม่เล่าว่า แม่จะต้องไปโรงเรียนตอนบ่ายวันอาทิตย์
โดยเดินจากบ้านเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อไป ต่อแพ ข้ามแม่น้ำมูล
( แม่ไม่เสียค่าแพ เพราะพี่ชายแม่เป็น "เสี่ยว" กับคนถ่อแพ )
แล้วยังต้องเดินต่ออีก 4 กม. !! ยัง ยังไม่ถึงครับ
แม่ต้องนั่งรถไฟจากสถานีบ้านคล้อ อีก 30 กม.
เสียค่ารถไฟประมาณ 8 - 11 บาท เป็นอย่างนี้ทุกสัปดาห์
วันศุกร์ เลิกเรียนแม่ก็กลับบ้านด้วยวิธีเดิม
แถมวันไหนถ้าเลิกเร็ว แม่จะเดินจากโรงเรียนกลับมาบ้านเลย !!!
( เฮ้ย 30 กว่าโลเนี่ย ) แต่ที่อยากจะเล่าจริง ๆ ก็คือว่า
ทั้งหมดเนี่ยแม่ผมเล่าให้ผมกับพี่ฟังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แม่ดูมีความสุขมาก อาจเป็นเพราะเราอยู่พร้อมหน้ากัน
นั่งล้อมวงคุยเรื่องอะไรก็มีความสุข ได้ฟังก็อดยิ้มตามไม่ได้
แต่ลึก ๆ ในใจก็คิดว่า คนบ้านนอกอย่างแม่ แค่ไปโรงเรียนยังลำบากขนาดนี้
แล้วกับการต้องเลี้ยงลูกสองคน ส่งเสียให้เรียน โรงเรียนดี ๆ
แม่จะลำบากแค่ไหน ...
ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หมดไปตั้งแต่วันแรกของการพักผ่อนเลยครับ
อยากจะรีบนอน แล้วตื่นไปทำงานวันพรุ่งนี้เลยจริง ๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)