วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

The Amazing Spiderman สนุกมั้ย ?

จริง ๆ ยังมีอีกหลายคำถามเลยครับ พอไปบอกทุกคนว่าไปดูสไปเดอร์แมน มา
- มันคือภาค 4 หรือเปล่า
- หรือว่าเป็นภาค ต้นกำเนิด ( ว่าไปนั่น )
- พระเอกหล่อมั้ยอ่า ^_^ ( หล่อค๊าบ )
สรุปแล้วภาคนี้ คือการเอา spiderman มาตีความใหม่ครับ
เนื้อหาหลักก็จะเหมือน Spiderman ตอนปี 2002 ( สิบปีแล้วเหรอเนี่ย )
คือเริ่มตั้งแต่พระเอกยังไม่มีพลังพิเศษ อาศัยอยู่กับคุณลุง คุณป้า
เป็นเด็ก ม.ปลาย หงอ ๆ หน่อย
แต่เวอร์ชั่น 2012 นี้ จะเล่าตั้งแต่ตอนที่ยังมีพ่อแม่อยู่เลย
ถ้าถามว่า สนุกมั้ย ต้องบอกว่า
ถ้าหวังจะให้เป็น - Super Hero แบบ Action ลั้ลลา
แบบหนังครอบครัว คงไม่ใช่ บรรยากาศ ออกจะดราม่าทีเดียว
พระเอกมีความเป็นคนธรรมดาสูงมาก
คือไม่ใช่แบบได้พลังพิเศษมา แล้วกลายเป็นคนดีมีความรับผิดชอบ
จนถึงตอนที่ลุงถูกโจรฆ่าแล้ว พระเอกเวอร์ชั่นนี้ก็ยังไม่ได้รู้สึกผิด
แต่กลับออกแนวแค้น แถมยังเกรียนนิด ๆ ดูแล้วเป็นมนุษย์จริง ๆ
แต่ไม่ใช่ Super Hero ที่เด็ก ๆ ไฝ่ฝัน
ที่ถามว่าพระเอกหล่อมั้ย ต้องบอกว่าหล่อครับ
( ติดใจมาตั้งแต่ Social Network ) แต่ไม่บึกเลย น่าแปลกอยู่เหมือนกัน
โดยรวมแล้ว Spiderman ภาคนี้ สนุกครับ แต่สนุกแบบหนังดราม่า
ที่มีฉาก Action แต่ถ้าจะพาลูก หลาน ไปดู Hero อืมม ไม่น่าจะผ่านครับ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พบพาเพื่อลาจาก

การที่คนเราได้มาพบกัน รู้จักกัน
ไม่ว่าจะร่วมงาน เป็นเพื่อน หรือคนรัก
แค่นี้ก็เป็นเรื่องยากแล้ว แต่กลับยากยิ่งกว่า
หากจะรักษาความสัมพันธ์ดี ๆ นั้น ให้คงอยู่
...
ทุกครั้งที่ได้เจอ รู้จัก ใกล้ชิด กับคนดี ๆ
ก็มักจะหลงลืมไปทุกที ว่าต้องมี วันลาจาก ไม่วันไดก็วันหนึ่ง
พอวันนั้นไกล้เข้ามา ก็อดใจหายไม่ได้
แต่มันก็คงต้องเป็นไป
...
อาจเป็นเพราะเรารักกันน้อยลงไป
หรือเรารักคนอื่นมากกว่า
หรืออาจเป็นเหตุผลต่าง ๆ ของชีวิต
ที่บังคับให้เราต้องเลือก
...
ขอบคุณทุกวันเวลาดี ๆ ที่เคยมีให้กันนะ
ถ้าโลกมันกลมจริง ๆ 
สักวันมันคงหมุนกลับมา ให้เราได้พบเจอกันอีก
.
.
.
ลาก่อน

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รีวิว Samsumg Galaxy S3


จริง ๆ ได้เครื่อง Samsung Galaxy S3 มา 2 - 3 แล้ว แต่ต้องขอเล่นให้หนำใจก่อน
แล้วค่อยมาเล่าสู่กันฟัง
จับครั้งแรกต้องบอกว่าประทับใจกับตัวเครื่องพอสมควร ออกแบบมาได้เรียบหรู โค้งมน
แต่ที่เป็นปลื้มจริง ๆ ก็ตอนเปิดเครื่อง หน้าจอสวยมาก ใหญ่ และชัดเต็มตา ดูมีมิติ
แถมยังมีลูกเล่นตอนล็อกหน้าจอ เอานิ้วไปแตะก็จะเป็นเหมือนคลื่นน้ำ พร้อมเสียง น่ารักดี


ส่วนในเรื่องการใช้งานทั่วไป S3 มาพร้อมกับ Android 4.0 ice cream sandwich
ซึ่งเร็ว ลื่น ใช้งานง่าย และสวยงาม ใครที่เคยใช้ Android มาก่อนได้มาเล่น S3
รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน การโทรเข้า โทรออก ก็มีอะไรเก๋ ๆ มาให้เล่นอีกแล้ว
เพราะถ้าเราอยู่ในหน้าข้อความใครอยู่ แค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู เจ้า S3 ก็จะโทรออกให้เอง
ส่วนเรื่องกล้อง S3 ก็ไม่ยอมแพ้ใครใส่กล้องหน้ามาถึง 1.9 ล้านพิกเซล
เรียกว่าสาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปตัวเองเองน่าจะปลื้มไม่น้อย
ส่วนกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล เมื่อมาบวกกับหน้าจอใหญ่ ๆ ชัดแจ่มขนาดนี้
ต้องบอกถูกใจคนชอบถ่ายรูปแบบผมมาก ( 2 วันก็เป็น 100 รูปละ ^^ )
ลองไปดูตัวอย่างกันเองละกัน




แถมยังมีระบบ Face Detection จดจำใบหน้าคนที่เรา ติด Tag ไว้ในรายชื่อได้ด้วย


ส่วนการถ่าย VDO  ก็Full HD 1080 p และสามารถถ่ายถาพนิ่งขณะถ่าย VDO ได้อีกด้วย !!
ส่วนการเล่น Multimedia อื่น ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่น Youtube เสียงดี ทั้งจากตัวเครื่องและหูฟัง
ส่วนหน้าจอนี่ประทับใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว ใหญ่ ชัด แจ่มมาก
แถมด้วยลูกเล่นพิเศษเวลาดู VDO ที่อยู่ในเครื่องสามารถ ทำอย่างอื่นไปพร้อมกันได้ด้วย
ไม่ว่าจะดูรูป เล่นเวป เช็คเมล์ โดยที่ VDO ก็ยังเล่นต่อไปตามปกติ o_O !!


สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือเล่นเกมส์
แล้วเจอปัญหาจอดับไปเพราะตั้งเวลาพักหน้าจอไว้
เจ้า S3 มี Smart stay คอยจับภาพหน้าเราอยู่ ถ้าเรายังมองจออยู่ ยังไงมันก็ไม่ปิดหน้าจอครับ
นอกจากนั้น S3 ยังมี S voice ระบบสั่งงานด้วยเสียง ( เหมือน siri ของ iphone4s )


จริง ๆ แล้ว Samsung Galaxy ยังมีลูกเล่นอีกหลายอย่าง เช่น NFC ,
Android Beam ( เอาเครื่องแตะกันแล้วส่งข้อมูล ) , S Memo
โดยรวมแล้วถือว่า เจ๋งมากครับสำหรับ S3 เหมือนว่า Samsung ใส่ใจรายละเอียด
และเอาใจใส่ประสบการณ์ผู้ใช้งานมากทีเดียว ต่างจากแต่ก่อนที่เน้นสเปคแรงไว้ก่อน
หลายคนอาจสงสัยว่ามันเจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องบอกว่าถ้าใครที่ใช้ Android อยู่แล้ว
คงจะชอบกับ S3 แต่ผมก็ไม่ได้ชอบไปซะทุกอย่างนะครับ อย่างจอที่ใหญ่ 4.8 นิ้วเนี่ย
มันดีก็จริง แต่ก็ใช้มือเดียวลำบากเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูป
หรือจะพิมพ์อะไรเนี่ย ใช้มือเดียว ก็เสียวเครื่องจะตกไม่น้อย
และการที่เครื่องมีลูกเล่นเยอะ ปรับแต่ง แก้ไข อะไรได้มากมาย
บางทีมันก็ " เยอะ " เกินไปเหมือนกัน ยิ่งถ้าคนไม่เคยใช้มาก่อน อาจจะ งง ๆ อยู่บ้าง
อีกอย่างคือ Application ของ Android ( ผมว่า ) มันยังสู้ iphone ไม่ได้ครับ
อย่าง Facebook เนี่ยเล่นใน iphone ดีกว่าเห็น ๆ หลายเกมส์ก็ยังไม่มี
ยังดีที่ตอนนี้มี Instagram กับ Flipboard ให้เล่น ^_^


ยังไงแล้วสุดท้ายก็ต้องเลือกตามสไตล์ และ กำลังซื้อของแต่ละคนนะครับ


~ บทความนี้ผมเขียนใน www.appsolut.in.th ด้วยนะครับ


วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทำบุญตักบาตร วันวิสาขบูชาเจ้า

วันนี้วันดีครับตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องไปทำบุญให้ได้ เมื่อคืนก็เลยนอนตั้งแต่หัวค่ำ :P
( เผลอหลับไปตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง สะดุ้งตื่นมา ตี 5 กว่า ^_^ ) 
ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปตักบาตรที่เชิงดอยสุเทพ
แต่พอไปจริง ๆ รถติดมาก ไปถึงแค่หน้าเทคโนก็ต้องกลับ
เพราะคนที่เดินขึ้นดอยกันเมื่อคืน ทะยอยกันลงมาเยอะมาก
เลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปตักบาตรหน้าตลาดต้นพยอมแทน


ซื้อกับข้าวเสร็จแล้ว ก็เลือกดอกไม้
เอิ่มม... เค้าใช้ดอกอะไรไหว้พระกันอ่ะ


สรุปแล้วได้ดอกแก้วมาครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
เพราะวันนี้คนเยอะมากแย่งกันซื้อ แย่งกันทำบุญ
ใจนึงก็ดีใจที่คนสนใจทำบุญกันเยอะ
แต่พอเห็นแย่งกันไปซะทุกอย่างก็แอบเซ็ง


คนที่มาทำบุญเนี่ย น่าจะเป็นคนที่ใจกว้าง จิตใจสงบ
แต่คงเป็นเพราะหลายคนติดนิสัยเร่งรีบ จากชีวิตในเมือง
~ วันหยุดราชการ จะรีบไปไหนกัน ฮึ้ยย
( บร๊ะ แอบใจร้อนซะเอง ^^ )
วันหยุดยาวอย่างนี้ไปไหนก็คนเยอะ ใจเย็นกันหน่อยก็แล้วกันครับ


อย่างน้อยก็วันนี้ เพราะเป็นวันดี ครบรอบ 2600 ปีพุทธชยันตี
ก็คือวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ชนะกิเลสทั้งปวงได้
ใครไปทำบุญ ที่ไหนก็ขอ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ไป คืนนี้ไปเวียนเทียนก็ยังทันนะครับ
สุขสันต์วันวิสาขบูชาครับ









วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดินเนอร์ใต้แสงเทียน ที่สลัดคอนเซป



เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปออกเดท หรือเกิดอารมณ์โรแมนติกอะไรหรอกครับ
แต่หลังจากที่พยายามออกกำลังกายอย่างหนัก ( ซิทอัพไป 5 ที ^^ )
ก็เริ่มหิว แต่พอก้มดูพุงตัวเอง ก็คิดว่ายังไงมื้อนี้ก็ต้องกินผักเยอะ ๆ
กว่าจะคิดได้ก็เกือบสามทุ่มละ ฝนก็ตก ผักที่ใกล้ที่สุด ก็ต้อง salad concept นี่ละครับ
ว่าแล้วก็เดินทาง ( ไม่ถึง 500 เมตร ) แต่ปรากฏว่า นิมมานไฟดับทั้งเส้นเลยครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

ผู้ชายเปื้อนฝุ่น กอดไม่อุ่นเหมือนคนมีตัง



หลายคนคงคิดว่า ร้อนขนาดนี้ ยังจะมากอด มาอุ่น อะไรกันอีก
แต่การที่เราต้องสัมผัสอากาศร้อนทั้งยามหลับและยามตื่นเนี่ย
มันเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะคนมีฐานะ(ยากจน)อย่างเราเท่านั้น
คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เข้านอนไปพร้อมกับอากาศที่ร้อนอย่างผิดปกติในช่วงนี้
ผ้าห่มกลายเป็นส่วนเกินบนเตียงแคบๆ เตียงเดิม
แต่คนอีกส่วนนึง ไม่ว่าจะฤดูไหน ก็จะเข้านอนพร้อมกับแอร์เย็นฉ่ำเสมอ เตียงนุ่มๆ ผ้าห่มหนาๆ
แค่คิดถึงก็รู้สึกได้ถึงความสุข ความอบอุ่น ที่จะคงอยู่ทุกฤดูกาล


เมื่อตอนที่ยังมองโลกสดใสกว่านี้ ผมเคยคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่
แต่เมื่อนานวันเข้า ก็ได้รู้ว่า สิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่จริงๆ แล้ว
คงหนีไม่พ้นเงิน

ก่อนหน้านี้เคยนั่งหัวเราะกับคำคมเก๋ ๆใน facebook อย่างเช่น 
"ผู้หญิงชอบคนดี รักคนเลว แต่งงานกับคนรวย"
"ไม่หล่อพอทน แต่จนห้ามจีบ"
ทั้งที่ไม่อยากยอมรับ แต่ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่..


~ พูดเล่น ๆ แต่คิดจริง ๆ

ใครจะเลือกนั่งรถโดยสาร หรือมอเตอร์ไซด์
ถ้ามีรถยนต์ดี ๆ ให้นั่ง
ใครจะเลือกกินข้าวริมถนนข้างทาง
ถ้าเลือกกินในห้างได้

และคงไม่มีใครเลือกนอนเบียดกัน ในวันที่อากาศร้อนแสนสาหัส
แทนที่จะนอนข้างกัน บนเตียงนุ่ม แอร์เย็น ผ้าห่มอุ่น




ผมเคยรู้สึกปกติมาก ที่กินอาหารข้างทาง
หรือนอนท่ามกลางอากาศร้อนแบบตามมี ตามเกิด
แต่เมื่อมีใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิต
ผมกลับทนสภาพเดิมไม่ได้ ความต้องการกินดี อยู่ดี เกิดขึ้นในใจ
ไม่ใช่ว่ากระแดะ หรืออยากดูดีในสายตาเธอ
แต่แค่อยากให้เธอมีความสุขในทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน
แต่มันจะเป็นไปได้นานแค่ไหนกัน ถ้ามีเงินไม่มากพอ ...

ทางออกที่คิดได้มีอยู่สองทาง
  - ก้มหน้า ก้มตาทำงาน สร้างเนื้อ สร้างตัว
เข้าท่า แต่ใช้เวลา นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ใครจะอยู่รอ
- ปล่อยเธอไปเจอคนที่ดีกว่า พร้อมกว่า
ในเมื่อมีคนที่รวยกว่า และพร้อมจะดูแล แล้วจะรั้งเธอไว้เพื่ออะไร

การได้เฝ้ามองคนที่เรารักอยู่ไกล ๆ
และรู้ว่าเธอ กินอิ่ม นอนอุ่น มีชีวิตที่สุขสบาย
คงดีกว่าเก็บเธอไว้ข้างกาย แล้วต้องทนมองเห็นเธอลำบากไปด้วยกัน

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากให้เราเป็นแค่คนที่เดินสวนกัน
จะได้ไม่ต้องมานอนร้องไห้ ร้อน ๆ คนเดียวอย่างนี้



ปล. แอร์เสีย ร้อน พาล ^_^


วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555

แม่ไปโรงเรียน



สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ~*
สุขสันต์วันหยุดยาวอย่างแท้จริงของคนไทย
ผมก็คือคนนึง ที่ต้องทำงานห่างจากครอบครัว
ที่จริงเชียงใหม่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรนัก ถ้าเทียบกับกรุงเทพ
แต่การต้องใช้ชีวิตลำพัง ก็ทำให้เกิดอาการอ้างว้าง
ได้อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน
เมื่อได้โอกาสหยุดยาวหลายวัน ก็ไม่รอช้า
ที่จะรีบกลับไปกอด ไปเล่นกับแม่
และทุกครั้งก็ได้กำลังใจดี ๆ กลับมาเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
นอกจากแม่จะให้ศีล ให้พร ตามปกติแล้ว
แม่ยังเล่าเรื่องราวน่ารัก ๆ ในอดีต ให้ฟังเยอะแยะ
แม่เล่าถึงตอนที่แม่ไปโรงเรียน ม.ต้น
แม่อยู่ที่ บ้าน บัวน้อย อ.กันทราลมย์ จ.ศรีสะเกษ
แม่เล่าว่า แม่จะต้องไปโรงเรียนตอนบ่ายวันอาทิตย์
โดยเดินจากบ้านเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อไป ต่อแพ ข้ามแม่น้ำมูล
( แม่ไม่เสียค่าแพ เพราะพี่ชายแม่เป็น "เสี่ยว" กับคนถ่อแพ )
แล้วยังต้องเดินต่ออีก 4 กม. !! ยัง ยังไม่ถึงครับ
แม่ต้องนั่งรถไฟจากสถานีบ้านคล้อ อีก 30 กม.
เสียค่ารถไฟประมาณ 8 - 11 บาท เป็นอย่างนี้ทุกสัปดาห์
วันศุกร์ เลิกเรียนแม่ก็กลับบ้านด้วยวิธีเดิม
แถมวันไหนถ้าเลิกเร็ว แม่จะเดินจากโรงเรียนกลับมาบ้านเลย !!!
( เฮ้ย 30 กว่าโลเนี่ย ) แต่ที่อยากจะเล่าจริง ๆ ก็คือว่า
ทั้งหมดเนี่ยแม่ผมเล่าให้ผมกับพี่ฟังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แม่ดูมีความสุขมาก อาจเป็นเพราะเราอยู่พร้อมหน้ากัน
นั่งล้อมวงคุยเรื่องอะไรก็มีความสุข ได้ฟังก็อดยิ้มตามไม่ได้
แต่ลึก ๆ ในใจก็คิดว่า คนบ้านนอกอย่างแม่ แค่ไปโรงเรียนยังลำบากขนาดนี้
แล้วกับการต้องเลี้ยงลูกสองคน ส่งเสียให้เรียน โรงเรียนดี ๆ
แม่จะลำบากแค่ไหน ...
ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หมดไปตั้งแต่วันแรกของการพักผ่อนเลยครับ
อยากจะรีบนอน แล้วตื่นไปทำงานวันพรุ่งนี้เลยจริง ๆ